อาการปวดเข่า หลายๆ คนมีอาการนี้แต่ล่ะเลยทีจะดูแล เนื่องจากคิดว่าอาการปวดเข่าเดี่ยวเดียวก็หาย ซึ่งจริงๆ แล้วในวัยรุ่น หรือเด็กอาจไม่ต้องกังวลมากก็จริง แต่ถ้ามีอาการอยู่บ่อยครั้งก็ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุเช่นกัน แต่ในผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุนั้นอาการปวดเข่านั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนเราอย่างหนึ่งเลยให้หันกลับมาดูแลเข่าได้แล้ว ไม่เช่นนั้นอาจจะสายเกินแก้ไข หรือเสียใจไปตลอดช่วงชีวิตทีเหลือ ว่าน่าจะดูแลรักษาเข่าตั้งแต่ทีแรก ก่อนทีจะนอนติดเตียง
ปวดเข่าสัญญาณเตือนของปัญหาเข่า
- มีเสียงกรอบแกรบเวลาทีขยับหัวเข่า และมีอาการข้อติดเวลาลุก นั่ง รู้สึกไม่สะดวกลุกนั่งยาก กว่าจะลุกได้เหมือนต้องเอาช้างมาฉุด
- มีอาการเสียว แปรบๆ บริเวณเข่า รู้สึกเจ็บจีดๆ เป็นพักๆ เป็นๆ หายๆ
- เวลาขึ้นลงบันได ขึ้นที่สูง จะรู้สึกเจ็บขณะเดินตลอดเวลา หรือบ่อยครั้งบริเวณรอบลูกสบ้า หรือรอบๆ หัวเข่า
- เวลานั่งพับเพียบ หรือนั่งขัดสมาธิเป็นเวลานานๆ จะมีอาการปวดเจ็บ
- ถ้าอาการหนักมากๆ จะมีอาการปวดเข่าอยู่ตลอดเวลา บริเวณรอบหัวเข่าบวมแดง
สาเหตุ และโรคต่างๆ ที่ก่อให้เกิดอาการปวดเข่า
- โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) โรคนี้เราพบเจอเยอะมากในผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันเราพบว่าโรคนี้เกิดในผู้ทีอายุน้อยลง และยังพบเจอในเด็กอีกด้วยเนื่องจากเด็กมีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ และน้ำหนักกดทับหัวเข่าจนเกิดการอักเสบ โดยโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น เกิดจากการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนที่ปลายกระดูกซึ่งเป็นส่วนของข้อต่อ โดยเฉพาะข้อต่อบริเวณ เข่า มือ เอว และกระดูกสันหลัง แต่เรามักพบที่ข้อเข่าเป็นส่วนใหญ่ อาจส่งผลให้รู้สึกเจ็บ เมื่อเคลื่อนไหวเข่า หรือเมื่อใช้แรงกดลงไปบริเวณเข่า ขยับเข่าได้ลำบาก บางครั้งอาจคลำได้ก้อนแข็ง หรือที่เรียกว่าหินปูนเกาะกระดูก (Bone Spurs) บริเวณข้อเข่า โรคข้อเสื่อมมักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย นอกจากนั้น อายุที่เพิ่มมากขึ้น และน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) โรคนี้เป็นโรคข้อทีเราพบเจอได้ทุกวัย โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่ปัจจัยทีเกี่ยวข้องกับโรคนี้มากกว่านั้นคือพันธุกรรม และระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากเม็ดเลือดขาวทีอยู่ในระบบภูมิคุ้มกันของเรานั้นมองว่า กระดูกอ่อนทีผิวข้อเรานั้นเป็นสิ่งแปลกปลอม จึงเข้าไปทำลายกระดูกอ่อนทีผิวข้อ แทนทีจะไปทำลายแบคทีเรีย และสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ กับทำลายร่างกายตัวเองซะงั้น
- โรคเกาท์ (Gout) พอเราได้ยินโรคนี้ หลายๆ คนก็นึกถึงไก่ขึ้นมาทันที แต่จริงๆ แล้วโรคนี้ไม่ได้เกิดจากการทานไก่อย่างเดียว แต่อาหารอื่นๆ เช่นผักทอดยอดบางอย่างก็ทำให้เกิดโรคนี้ได้ รวมถึงความผิดปกติของการผลิตกรดยูริคในร่างกายทีมากเกินไป และเกิดการสะสมกลายเป็นผลึกของกรดยูริคสะสมตามข้อเข่า และข้ออื่น จนทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดการปวดบริเวณข้อ
- ข้อเข่าเกิดการกระทบกระเทือน การอักเสบทีเกิดขึ้นอาจจะเกิดการปวดเข่าเป็นระยะเวลาสั่นๆ แล้วหายปวดหรือบางคนอาจปวดเรื้อรังจนไม่อาจหายขาดได้เลย โดยมักเกิดกับนักกีฬาทีใช้ข้อเข่ามากๆ เช่นนักกีฬาวิ่ง นักบาสเก็ตบอล นักวอลเลย์บอล มีข้อเข่าเกิดแรงกระแทกมากๆ ขณะเล่นกีฬา หรือผู้ทีมีน้ำหนักตัวมาก น้ำหนักกดบริเวณข้อเข่าเป็นเวลานานๆ และยิ่งในคนที่กล้ามเนื้อบริเวณขา หรือเข่าไม่แข็งแรงแล้วนั้น ยิ่งจะทำให้เกิดการอักเสบของเข่ามากขึ้น เนื่องจากเข่านั้นต้องรับน้ำหนักมากขึ้น
ผลร้ายทีตามมา หากไม่ดูแลเข่าตั้งแต่เริ่มปวด
- ขาโกง จนสนัขวิ่งรอดได้ อาการขาโกงนั้นเกิดจากภาวะทีเข่าเสื่อมมากจนกระทั้งกระดูกอ่อนทีหัวเข่าเราถูกทำลายจนกระดูกขาท่อนบน และกระดูกหน้าแข้งเกิดการเสียดสี และดันกันจนขาโกงออก ทำให้เสียบุคลิกภาพเวลายืน เดิน และการแก้ไขทำให้ขาโกงให้กับมาเป็นปกตินั้นทำได้ยากมาก การผ่าตัดนั้นสามารถช่วยได้แต่หลังผ่าตัดนั้นต้องทำการกายภาพ และพักฝื้นเป็นเวลานาน เพื่อให้กลับมาเดินได้เป็นปกติ
- กระดูกสะโพกอักเสบได้ง่าย หรือร้ายกว่านั้นคือกระดูกสะโพกแตกจนต้องนอนติดเตียงตลอดชีวิต การทีกระดูกทีหัวเข่าเราไม่แข็งแรง เข่าเสี่อมนั้น ทำให้กระดูกในส่วนสะโพกนั้นต้องทำหน้าที่มากขึ้น ในการรับน้ำหนักเพื่อมาทดแทนกระดูกที่ข้อเข่า ทำให้กระดูกสะโพกต้องรับน้ำหนักมากกว่าเดิมจึงทำให้ปวดบริเวณสะโพกได้ง่าย และเมื่อกระดูกสะโพกต้องรับน้ำหนักมากเกินไปก็จะเกิดการเสื่อม และแตกหักง่ายตามมาได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ถ้าผู้ป่วยหกล้มจะยิ่งทำให้เกิดการแตกของกระดูกสะโพก (Hib Fracture) ทำให้ไม่สามารถเดินได้จนต้องนอนติดเตียงเป็นระยะเวลายาวนานกว่าอาการจะดีขึ้น หรือถ้าในผู้สูงอายุนั้นอาจต้องนอนติดเตียงไปตลอดชีวิตทีเหลืออยู่เลยก็เป็นได้
ดูแลเข่าอย่างไรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ข้อเสื่อม เช่น การเดินขึ้นลงบันไดมากๆ การสะบัดขา สะบัดข้อ การนั่งพับเพียบเป็นเวลานานๆ การเล่นกีฬาที่ทำร้ายข้อเข่าอย่างหักโหม
- เวลาทีมีอาการปวดเข่า ควรหยุดพักนั่ง หายาลดการปวดอักเสบมารับประทาน ไม่ควรนวดหรือทุบเข่า เพราะนอกจากไม่ทำอาการปวดเข่าหายได้จริงแล้ว ยังเป็นการทำร้ายข่อเข่าอีกด้วย
- เมื่อเริ่มมีอาการปวดเข่า เสี่ยวเข่าแล้ว ควรรีบหาอาหารเสริมเพื่อบำรุงเข่า เช่นอาหารเสริมทีช่วยเติมน้ำเลี้ยงข้อเข่าต่างๆ อาหารเสริมที่ช่วยซ่อมแซม และเสริมสร้างกระดูกอ่อนที่ผิวข้อ
ทำไมต้องทานอาหารเสริมบำรุงข้อไม่ทานได้มั้ย
- หากอายุยังน้อยอาจไม่ต้องทานก็ได้ เนื่องจากในคนอายุน้อยนั้น ร่างกายยังสามารถผลิตน้ำเลี้ยงข้อได้ แต่เมื่ออายุมากแล้วการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงข้อนั้นลดลง
- อาหารทั่วๆ ไปที่เรารับประทานมีสารอาหารในกลุ่ม คอนโดอิติน และคอลลาเจนชนิดที่ 2 ซึ่งสารทั้ง 2ตัวนี้มีบทบาทในการบำรุงกระดูกอ่อนที่ข้อเข่า ซึ่งมีอยู่ในปริมาณทีน้อยมาก ไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมเซลล์กระดูกอ่อนที่ถูกทำลาย
สรุปแล้วเวลาปวดเข่าเราควรทำอย่างไร
- หาสาเหตุของการปวดต่างๆ ไม่ว่าจะเกิดจากโรคต่างๆ การทำงาน หรือพฤติกรรมต่างๆ ทีทำให้เราปวด ให้เราหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านั้น หรือการใช้งานทีผิดสรีระจนทำให้เข่าเราเกิดการปวดอักเสบ
- ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงงานทีทำได้ เช่นต้องยกของหนัก ต้องเลี้ยงเด็ก ควรหาผ้ายึดสวมหัวเข่า (Knee Support) มาใส่เพื่อให้หัวเข่าเราจะได้ไม่ต้องรับน้ำหนักมากเกินไป
- หากมีอาการปวดแล้วควรหายารับประทาน เพื่อบรรเทาอาการปวด ไม่ควรนวดแรงๆ หรือทุบตีเข่า เพราะจะยิ่งเป็นการทำให้เข่าเกิดการอักเสบ
- ถ้าเราปวดบ่อยครัั้งควรหาอาหารเสริม ที่ช่วยบำรุงข้อเข่าทานสม่ำเสมอ แต่ถ้าอาการปวดยังคงเป็นอยู่บ่อยครั้ง เช่นปวดทุกวัน – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ควรไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินจฉัย และรักษาในขั้นถัดไป
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก pobpad.com